บทความเกี่ยวกับไปป์

ประวัติของไปป์ข้าวโพด 150 ปี ตำนานที่ไม่เคยตาย

ประวัติของไปป์ข้าวโพด 150 ปี ตำนานที่ไม่เคยตาย

เมื่อพูดถึงไปป์ข้าวโพด เชื่อว่าภาพที่ผุดขึ้นมาในจินตนาการของคนส่วนใหญ่ ก็น่าจะเป็น ใบหน้าของตัวการ์ตูนชื่อดัง “ป๊อปอาย” (Popeye) กะลาสีเรือ ที่ชอบกินผักโขมเพิ่มพลัง และมักจะคาบไปป์คู่ใจเสมอ หรือไม่ก็ภาพของ นายพลดักลาส แมกอาร์เธอร์ กับภาพที่เขายืนคาบไปป์ทรงยาวแปลกตา จนเรียกได้ว่าเป็นรูปถ่ายในตำนาน ที่ติดตาคนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบันเลยก็ว่าได้

ประวัติของไปป์ข้าวโพด 150 ปี ตำนานที่ไม่เคยตาย

ถึงแม้ว่าไปป์ข้าวโพดจะมีมานานแล้ว แต่ในปัจจุบัน ผู้ที่ยังอยู่ในแวดวงการสูบไปป์ ก็ยังคงใช้สิ่งนี้สลับกับไปป์ไม้บราย (Briar) ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของความชื่นชอบส่วนตัว หรือหลงใหลในสัมผัสที่ไม่เหมือนกับการสูบไปป์ไม้ แต่สิ่งที่ตอบได้แน่ๆ คือ ไปป์ข้าวโพด ต้องมีดีอะไรซักอย่างถึงยังอยู่ยืนยงมาจนถึงบัดนี้

ประวัติของไปป์ข้าวโพด

จากประสบการณ์และความชำนาญในการผลิตที่มีมากว่า 150 ปี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เมื่อนึกถึงไปป์ข้าวโพด ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ของแท้ และดั้งเดิม จนเรียกได้เต็มปากว่าเป็นตำนานของชาวอเมริกัน ก็ต้องยกให้แบรนด์ Missouri Meerschaum เท่านั้น

วอชิงตันเป็นเมืองทางฝั่งใต้ของแม่น้ำมิสซูรี ห่างจากเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีไปทางตะวันตก 50 ไมล์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแฟรงกลินเคาน์ตี รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา และเป็นที่รู้จักมานานว่าสถานที่แห่งนี้เป็น "เมืองหลวงของไปป์ข้าวโพด"

ตำนานเล่าว่า ในปี 1869 ชาวนาในท้องถิ่นได้ลองเอาข้าวโพดมาทำเป็นไปป์สูบ แต่ผลที่ได้กลับเกินคาด เพราะเขารู้สึกชอบมันมาก จึงได้ไปของให้ Henry Tibbe ซึ่งเป็นช่างไม้ชาวดัตช์ อพยพ ลองใช้เครื่องกลึงที่มี ทำไปป์ให้ออกมาสมบูรณ์แบบขึ้น ซึ่งสิ่งที่ได้นั้นก็เป็นที่น่าพอใจมาก จนTibbe ตัดสินใจผลิตไปป์จากซังข้าวโพดทำนองนี้ขึ้นมาอีก 2-3 แบบ และวางขายในร้านขายไม้ของตัวเอง ซึ่งต่อมากลายเป็นว่าอาชีพทำไปป์ข้าวโพดขาย ดันสร้างรายได้แซงหน้าอาชีพขายไม้ซึ่งเป็นงานหลัก ในท้ายที่สุด  เขาก็เริ่มผลิตไปป์ข้าวโพดออกจำหน่ายอย่างจริงจังจนก่อตั้ง บริษัท The Missouri Meerschaum  และกลายเป็นผู้ผลิตที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก ณ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา นั่นเอง

ในปี 1907 บริษัท H. Tibbe & Son กลายเป็นบริษัท Missouri Meerschaum ซึ่งคำว่า "meerschaum" มาจากคำภาษาเยอรมันที่แปลว่า "sea foam" เป็นวัตถุดิบจากตุรกี หรือ Turkish Clay ซึ่งเอาไว้ใช้ผลิตไปป์คุณภาพสูงราคาแพง

ขั้นตอนและขบวนการในการทำไปป์ข้าวโพดเริ่มต้นจากการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว เมื่อบริษัท Missouri Meerschaum เริ่มการผลิตในทศวรรษที่ 1860 ทางบริษัทได้ปลูกข้าวโพดหลากหลายสายพันธุ์ สำหรับการผลิตไปป์ เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็เกิดปัญหาการผสมข้ามสายพันธุ์ ทำให้ซังข้าวโพดมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ

จนทางบริษัทต้องขอให้ มหาวิทยาลัยมิสซูรี มาช่วยพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ให้มีซังขนาดใหญ่ขึ้นเหมาะสมกับการทำไปป์ ปัจจุบันนี้ Missouri Meerschaum เป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกใน Missouri ซึ่งกินเนื้อที่ประมาณ 150 เอเคอร์

หลังจากเก็บเกี่ยว ข้าวโพดจะถูกเก็บไว้จนกว่าจะกะเทาะเมล็ดได้ การกะเทาะเมล็ดออกจากซังข้าวโพดทำได้ด้วยการใช้เครื่องกะเทาะแบบโบราณ หลังจากนั้นซังจะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ซังแข็งและแห้งนั่นเอง

เปลี่ยนซังข้าวโพดเป็นไปป์

เมื่อผ่านกระบวนการทำให้ซังแข็งและแห้งพร้อมที่จะกลายเป็นไปป์ ขั้นแรก ซังข้าวโพดจะถูกเลื่อยตามขนาดและประเภทของไปป์แต่ละแบบ ไปป์บางรุ่นใช้เครื่องกลึงเจาะเข้าไป บางรุ่นอาจต้องกลึงด้วยมือ เนื่องจากมีรูปร่างที่แตกต่างกัน

ขั้นตอนต่อไปคือ การทาปูนปลาสเตอร์บนพื้นผิวของเบ้า จากนั้นขัด และเคลือบเงา ซึ่งหลังจากเบ้าแห้งแล้ว จึงเริ่มขั้นตอนการประกอบก้านเข้ากับเบ้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพียงเท่านี้ไปป์ข้าวโพดก็พร้อมสำหรับการบรรจุและจัดส่งไปยังทั่วทุกมุมโลก

คำถามยอดฮิต

1.ไปป์ข้าวโพดทำมาจากอะไร?

ไปป์ข้าวโพดทำจากซังข้าวโพด หรือพูดง่ายๆ ก็คือแกนกลางของข้าวโพดที่มีการเอาเมล็ดออกแล้ว จากนั้นผ่านกรรมวิธีการเก็บ รอให้แห้ง ก่อนจะถูกคัดเลือกและนำมาเจาะทำเป็นเบ้าสูบ

  1. สูบไปป์ข้าวโพดดีหรือไม่?

ไปป์ข้าวโพดมีข้อดีตรงที่ราคาถูกกว่าไปป์ไม้ มีคุณสมบัติเด่นๆ คือ ความแห้ง โปร่ง เบา ทำความสะอาดง่าย ระบายความร้อนได้ดี แต่มีข้อเสียคือมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าไปป์ไม้

3.ไปป์ข้าวโพดมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?

อายุของไปป์ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาและการใช้งาน ซึ่งตามสถิติแล้วสามารถเป็นไปได้ตั้งแต่ หลักสัปดาห์ เดือน จนถึงปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวไปป์นั้นๆ วิธีการสูบ การดูแลรักษา โดยนักสูบไปป์ข้าวโพดส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผลัดเปลี่ยนไปป์ทุกๆ 7 วัน หรือการใช้สลับกับไปป์อื่นๆ

เคล็ดลับในการยืดอายุของไปป์ข้าวโพด และทำให้ได้อรรถรสในการสูบดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนการบรรจุยาเส้น

  1. การบรรจุยาเส้นลงในเบ้าให้ถูกต้องเป็นขั้นตอนแรกในการสูบ
  2. การจุดไฟหลังบรรจุยาเส้นไปป์จนเต็มเบ้าแล้วโดยการลนไฟและวนเบา ๆ ให้ทั่วใบยาด้านบน จากนั้นค่อยๆดึงควันเบาๆ สั้นๆ เพื่อทำให้เกิดควัน และลดปัญหาการเกิด อาการเจ็บลิ้นลิ้นแตกด้วย
  3. หากเป็นเบ้าใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องสูบให้หมด เมื่อสูบไปเรื่อยๆ ภายในเบ้าจะเริ่มมีผนังคาร์บอนเกิดขึ้น สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันตัวไปป์ แต่ยังช่วยให้ไปป์ทำงานได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย
  4. ขณะที่สูบ สิ่งสำคัญคือต้องเป่าควันย้อนกลับเป็นระยะๆ เพราะนอกจากจะได้ควันที่สม่ำเสมอแล้วยังทำให้ไปป์ไม่ดับด้วย
  5. สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้การจุดไฟที่ให้เปลวไฟอ่อนๆ เช่น เชือกขี้ผึ้ง (Hemp Wick) ไม้ขีด ไฟแช็คธรรมดา หรือ Zippo ไม่ควรใช้ ไฟแช็คแบบไฟฟู่

การบำรุงรักษาและการดูแลไปป์

  1. แนะนำให้ใช้ลวดล้างทำความสะอาดเมื่อสูบเสร็จแล้ว เพราะไปป์ที่สะอาดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสูบได้เป็นอย่างดี เริ่มจากการถอดฟิลเตอร์ตัวกรองออก (ถ้ามี) ฟิลเตอร์สำหรับไปป์ข้าวโพด รุ่นที่สามารภใส่ฟิลเตอร์ได้ก็คือ Medico filter 6 mm. เป็นไส้กรองแบบกระดาษ ช่วยดูดซับความชื้น และช่วยกรองทาร์ นิโคติน
  2. การปล่อยให้ส่วนประกอบทั้งหมดของไปป์ข้าวโพดเย็นลง จะช่วยไม่ให้ไปป์แตกหักเสียหายได้ เวลาต้องการถอดด้ามไปป์ ให้จับส่วนก้านให้แน่น และบิดเบา ๆ เพื่อถอด
  3. ไม่ควรเคาะเบ้าไปป์กับพื้นผิวที่แข็ง แต่ควรเคาะกับสิ่งที่อ่อนนุ่ม เช่น ฝ่ามือ หรือ จุกก็อก Pipe Cork วิธีการคือต้องจับที่เบ้า แทนที่จะจับก้านไปป์ เพราะการจับที่ส่วนก้าน Stem อาจทำให้เกิดการแตกหักได้
  4. ควรมีไปป์มากกว่าหนึ่งตัวในการสูบเพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน หลักการก็คือ ให้เวลาไปป์ได้พัก ระบายความชื้นบ้าง การใช้ไปป์อันเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน นอกจากส่งผลต่ออรรถรสในการสูบแล้ว ยังทำให้ไปป์เสียเร็วด้วย นักสูบไปป์ส่วนใหญ่แนะนำให้สลับเปลี่ยนไปป์ทุกๆ 7 วัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *