บทความเกี่ยวกับไปป์

ประวัติ ไปป์ Chacom

ประวัติ ไปป์ Chacom

ประวัติ ไปป์ Chacom

CHAPUIS-COMOY&Cie คือ บริษัทออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่าย ไปป์คุณภาพ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Saint-Claude ประเทศฝรั่งเศส

ปัจจุบันนี้ Chacom ยังคงเป็นแบรนด์ไปป์ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ที่สามารถผสมผสานองค์ความรู้ในแบบดั้งเดิม กับวิทยาการ และความคิดสร้างสรรค์แบบสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว โดยผู้บริหาร Antoine GRENARD ถือว่าเป็นผู้นำธุรกิจรุ่นที่ 6 ของครอบครัว โดยมีทีมงานทั้งหมดกว่า 20 คน ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ไปป์ไม้ Briar ที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1850

นอกจากจะเป็นโรงงานผลิตไปป์แล้ว CHAPUIS-COMOY&Cie ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายไปป์และอุปกรณ์ ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ด้วย เช่น Peterson และ Rattray’s

ประวัติ ไปป์ Chacom

ปี 1825: ก่อนที่จะมีการค้นพบไม้ Briar ครอบครัว Comoy ได้ประกอบธุรกิจผลิตไปป์จากไม้ boxwood ให้กับทหารในกองทัพของจักรพรรดินโปเลียน โดยตั้งโรงงานอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของ Avignon ใกล้เมือง Saint-Claude

ปี 1850: Henry Comoy ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้ถือกำเนิดขึ้น

ปี 1870: Henry Comoy เป็นเชลยสงครามในสวิตเซอร์แลนด์ และได้พบกับ Chapuis ที่เป็นญาติ ก่อนเริ่มคิดที่จะเริ่มต้นทำอะไรด้วยกัน

ปี 1879: Henry Comoy อพยพไปที่ ลอนดอน พร้อมกับช่างเทคนิคบางคน จากเมือง Saint-Claude และได้ก่อตั้งโรงงานผลิตไปป์แห่งแรกที่อังกฤษในชื่อ H. COMOY & C° LTD. โดยได้วัตถุดิบที่เป็นไม้ Briar (บราย) จาก โรงงานที่อยู่ใน Saint-Claude

ปี 1922: หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 COMOY และ CHAPUIS ได้ร่วมมือกัน โดยเปลี่ยนชื่อโรงงานที่ฝรั่งเศสเป็นชื่อ CHAPUIS COMOY & Cie.

ปี 1924: Henry Comoy เสียชีวิต ลูกชายที่ชื่อ Paul และ Adrien มารับช่วงกิจการทั้งที่ฝรั่งเศส และอังกฤษต่อ โดยมีญาติที่ชื่อ Emile และ Louis Chapuis คอยช่วยเหลือ

ปี 1928: โรงงานไปป์ที่ลอนดอน สามารถทำการผลิตไปป์ของตัวเองได้แล้ว และเพื่อเดินหน้าต่อทางโรงงานฝั่งฝรั่งเศสจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Chacom โดยเอาอักษรตัวแรก 3 ตัวของครอบครัว COMOY และ CHAPUIS มารวมกัน ซึ่งตั้งแต่ก่อนปี 1939 ขึ้นไป แบรนด์ Chacom จะวางขายแค่ที่ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ไปชนกับแบรนด์ COMOY ที่มีคุณภาพและรูปทรงเหมือนกัน

ปี 1932: เกิดวิกฤตเศรฐกิจ ทำให้ Chapuis Comoy & Cie ต้องแก้เกมส์ด้วยการรวมกับอีกบริษัทคือ La Bruyère และกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดด้วยการมีคนงานกว่า 450 คน และต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ในการขนส่งไม้บราย (Briar) จากโรงเก็บ ไปที่โรงงานผลิต

ปี 1945: หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Chacom กลับมาอีกครั้ง และได้เปิดตัวซีรี่ย์ไปป์แบบใหม่มากมาย

ปี 1946: Chacom กลายเป็นแบรนด์ไปป์หลักในฝรั่งเศส และเบลเยี่ยม

ปี 1947-1948: Chacom เป็นแบรนด์อันดับ 1 ใน แถบสแกนดิเนเวีย เยอรมัน และอเมริกา

ปี 1957: ด้วยแรงโปรโมททำให้คนรู้จัก Chacom มากกว่า La Bruyère เป็นเหตุให้กลับมาใช้ชื่อ CHAPUIS COMOY & Cie. อีกครั้ง

ปี 1964: Adrien Comoy เสียชีวิต ด้านลูกชายที่ชื่อ Pierre มารับหน้าที่ดูแลธุรกิจต่อที่ ลอนดอน ส่วน Reed มาดูแลงานที่ฝั่ง Saint-Claude

ปี 1965: เป็นไปป์ฝรั่งเศสแบรนด์แรกที่ญี่ปุ่น

ปี 1971: Yves GRENARD ซึ่งเป็นญาติของ Pierre Comoy ได้มารับช่วงบริหารงานที่ Chapuis Comoy & Cie และรับหน้าที่ฝ่ายขายให้กับ H. COMOY & Ltd ในฝรั่งเศส

ปี 1978: Pierre Morel ซึ่งเป็นช่างทำไปป์ Freehand อิสระ ได้เข้ามาร่วงานกับแบรนด์ และได้เปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ในชื่อ Chacom Grand Cru ซึ่งผลิตแต่งานแฮนด์เมดโดยเฉพาะ เขาคนนี้คือผู้คิดค้น ทรงไปป์ที่ชื่อ Naja และ "Fleur de Bruyère"

ปี 1987: Pierre Morel กลายเป็นช่างในทีมของ Chapuis-Comoy แบบเต็มเวลา

ปี 1994: Chapuis-Comoy รวมกับบริษัท ROPP

ปี 1996: Design Pipe ตัวแรก Chacom Volute ด้วยผลงานการร่วมงานกับ Claude Robin

ปี 1997: มีการส่งออกไปป์ฝรั่งเศส ไปที่รัสเซีย และประเทศในแถบตะวันออกเป็นครั้งแรก

ปี 1998: เปิดตัว Chacom Volute n° 2

ปี 1999: มีการเซ็นสัญญากับ The Pipe Trade Association เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตไปป์

ปี 2001: Yves GRENARD ออกแบบไลน์ใหม่ Chacom MILLENIUM

ปี 2002: เปิดตัว Chacom ที่ประเทศจีน

ปี 2003: เปิดตัวไลน์ใหม่ กับการร่วมมือจาก Erwin VAN HANDENHOVEN

ปี 2007: ลูกชายของ Yves ที่ชื่อ Antoine GRENARD มารับช่วงดูแลบริษัท CHAPUIS-COMOY & Cie ต่อ โดยเขาเองจบจากมหาวิทยาลัยการออกแบบ และเป็นผู้สร้างสรรค์รูปทรงไปป์ใหม่ๆ เช่น Sphère, Vulcano, Monza และอื่นๆ

ปี 2013: Chapuis-Comoy & Cie ได้รับรางวัลจาก Entreprise du Patrimoine Vivant (EPV) ในฐานะบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีความเป็นเลิศด้านองค์ความรู้แบบดั้งเดิม

ปี 2016: บริษัท CHAPUIS COMOY มีการย้ายโรงงานจากเดิมที่ Faubourg Marcel ในบริเวณ Saint-Claude ไปที่ Villard-Saint-Sauveur ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร โดยในอาคารทำการใหม่ได้มีการออกแบบ ให้พร้อมสำหรับการใช้เครื่องมือ และวิธีการแบบสมัยใหม่ อีกทั้งยังมีร้านค้า และพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *